วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ความเครียด" เพชรฆาตเงียบต่อสุขภาพ


          ความเครียดมีผลต่อร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ บางครั้งความเครียดแบบฉับพลันอาจเป็นผลดีต่อร่างกาย เช่น ช่วยกระตุ้นการสูบฉีดเลือด และผลักดันให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จ แต่ความเครียดบางชนิดก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ความเครียดเรื้อรัง ความเครียดต่อร่างกายจากปัญหาสุขภาพ ความเครียดที่เกิดจากการทำลายของอนุมูลอิสระ หลายคนไม่รู้สึกตัวว่าร่างกายกำลังได้รับผลกระทบจากความเครียด จนกระทั่งผลกระทบนั้นสะสมเป็นเวลานาน จนสังเกตเห็นความผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ น้ำหนักเกิน

ผลของความเครียดต่อร่างกาย

          เมื่อร่างกายเกิดความเครียดจะเกิดการหลั่งฮอร์โมน เช่น อะดรีนาลีนคอร์ติซอล ทำให้หัวใจเต้นเร็ว การย่อยอาหารช้าลง มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด การควบคุมการทำงานของสมอง มีพลังงานมากขึ้น หรือแข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยให้เราเอาชนะ หรือหนีจากสิ่งที่เป็นต้นเหตุ ของความเครียด และเมื่อผ่านพ้นความเครียดนั้นไปได้ ร่างกายก็จะกลับสู่ภาวะผ่อนคลาย ฮอร์โมนความเครียดกลับสู่ภาวะปกติ แต่ในปัจจุบันที่ความเครียดจากสิ่งแวดล้อม การดำเนินชีวิต หรือสิ่งที่ต้องเผชิญซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายไม่สามารถกลับสู่ภาวะผ่อนคลาย เกิดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) อย่างต่อเนื่อง

          ผลที่เกิดขึ้นจากความเครียดเรื้อรัง ต่อสุขภาพร่างกายที่พบได้ คือ ปวดศีรษะเรื้อรัง ติดเชื้อง่าย เพิ่มความรุนแรงของอาการจากโรคของภูมิคุ้มกัน (เช่น SLE รูมาตอยด์) ซึมเศร้า โรควิตกกังวล เบาหวาน โรคหัวใจ แผลในกระเพาะอาหาร ผมร่วง อ้วน น้ำหนักเกินสมรรถภาพทางเพศลดลง มะเร็ง เป็นต้น

ทำอย่างไรเพื่อจัดการกับความเครียด

          การจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นหลักสำคัญมี 2 ประการ ได้แก่ นำพาร่างกายและจิตใจสู่ภาวะผ่อนคลาย ไม่ตกอยู่ในสภาวะเครียดเรื้อรัง และดูแลสุขภาพเพื่อปกป้องร่างกายจากการทำลายของความเครียด ขอแนะนำ 9 เทคนิค เพื่อดูแลร่างกายให้พร้อมเผชิญ และจัดการความเครียดดังต่อไปนี้

          1. เรียนรู้วิธีจัดการความเครียด ก่อนอื่นให้นำร่างกายและจิตใจเข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย หยุดคิดปัญหาหรือต้นเหตุแห่งความเครียดไว้ชั่วคราว ทำกจกรรมเช่น โยคะ นั่งสมาธิ เข้าสปา เล่นเกมส์ ท่องเที่ยว เป็นต้น จากนั้นจึงค่อยวิเคราะห์สาเหตุของความเครียด เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่การกำจัด หรือป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดดังกล่าวขึ้นอีก แต่หากเป็นเรื่องที่นอกเหนือความสามารถที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ อาจต้องถามตัวเองว่าเป็นเรื่องที่เราควรนำมาคิด หรือกังวลให้เครียดตลอดเวลาหรือไม่ หรือเพียงรับรู้ข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปพูดคุยเพื่อหาแนวทางกำจัดปัญหา ของความเครียดกับผู้อื่นต่อไป

          2. รับประทานสารอาหารให้สมดุล ดูแลให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ในสัดส่วนที่สมดุล ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของความเครียด ที่เกิดจากการขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไป

          3. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับผักผ่อนอย่างแท้จริง และเพียงพอหากมีเรื่องต้องกังวล หรือคิดแนะนำ ให้นำจิตใจ และร่างกายสู่สภาวะผ่อนคลายก่อนเข้านอน เพราะการที่เราเข้านอนทั้งๆ ที่ยังเครียดหรือกังวลอยู่ มีผลทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่สามารถฟื้นฟู ซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่

          4. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายช่วยให้ระดับฮอร์โมนความเครียดลดลง และยังดีต่อสุขภาพหัวใจ กล้ามเนื้อ และช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินอีกด้วย

          5. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1-1.5 ลิตร เพื่อให้เพียงพอกับขบวนการเมตาบอลิสมต่างๆ ในร่างกาย

          6. พูดคุยกับเพื่อนหรือกลุ่มเพื่อน การเก็บตัวเงียบคนเดียวยิ่งทำให้ฟุ้งซ่าน และเพิ่มความเครียด การได้พูดคุยหรือรับฟังความเห็นต่างๆ จากผู้อื่นช่วยให้เราได้มุมมองใหม่ๆ เพื่อการจัดการความเครียดที่เกิดขึ้น

          7. ปกป้องร่างกายจากสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเครียดต่อร่างกายได้แก่ มลภาวะ ควันพิษ ควันบุหรี่ แสงแดดจัด สารปนเปื้อน และแหล่งอนุมูลอิสระทั้งหลาย เราควรหลีกเหลี่ยง

          8. เสริมสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอ ความเครียดก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่มากเกินในร่างกาย การเสริมอาหารด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างสม่ำเสมอช่วยให้มั่นใจว่าร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ ที่ช่วยปกป้องจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากความเครียด

          9. วัดระดับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสม่ำเสมอ วัดระดับสารต้านอนุมูลอิสระทุกๆ 1-2 เดือน ด้วยเครื่องไบโอโฟโตนิคสแกนเนอร์ เพื่อเรียนรู้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระ และปรับปรุงการดูแลสุขภาพ หรือเสริมอาหารได้อย่างทันท่วงที ควรให้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ที่ 40000-50000 ขึ้นไป


ขอขอบคุณรูปภาพจาก kapook.com

บทความที่ได้รับความนิยม

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...